ผมได้พูดถึงสิ่งที่ควรทำในงานตกแต่งภายในไปแล้ว วันนี้เรามาพูดถึงสิ่งที่ [ไม่ควรทำ] กันบ้างดีกว่าครับ เพราะในบางครั้งความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย หรือครั้งเดียวสามารถทำให้ลูกค้ามีมุมมองต่อเราเปลี่ยนไปได้ในทันที ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้
ไม่ควรละเลยปัญหาของลูกค้า
ไม่ว่าจะปัญหาเล็กหรือใหญ่ หรือความต้องการ ความสนใจของลูกค้า หากผู้รับเหมาละเลยจะแสดงถึงความไม่เอาใจใส่ เพราะสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากการจ้างผู้รับเหมาคือเขาต้องการคนที่มาช่วยแก้ไขปัญหา จัดการความยุ่งยากต่างๆให้ แต่นอกจากการมาจัดการแล้ว คือ “ต้องเข้าใจ” มีความคิดไอเดียไปทางเดียวกับพวกเขาด้วย เมื่อพวกเขามีปัญหา มีความต้องการอะไรก็ตาม ผู้รับเหมามีหน้าที่เจาะลึกปัญหาหรือความต้องการนั้น ล้วหาข้อสรุปว่าจะทำให้หรือไม่ หากไม่ทำเป็นเพราะอะไรต้องแจ้งลูกค้าอย่างละเอียด ไม่ใช่ว่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแล้วมองข้ามไป เพราะถ้าให้พูดตามตรง ลูกค้าก็สามารถน้อยใจ แอบไม่ปลื้มเราได้เหมือนกันครับ
ไม่ควรลดคุณภาพวัสดุเพียงเพราะต้องการประหยัด หรือเพิ่มกำไร
ผู้รับเหมาบางเจ้าหัวหมอลดคุณภาพวัสดุให้ราคาต่ำกว่าที่ตกลงไว้เพราะมองว่าลดไปลูกค้าก็ไม่รู้หรอก คิดว่าโอกาสจับได้มีน้อย ใช่ครับ หากเป็นงานที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าลูกค้าจับไม่ได้แน่นอน แต่การที่ผู้รับเหมาทำเช่นนี้จะแสดงถึงความไม่รับผิดชอบ และไม่ซื่อสัตย์ เราอาจจะคุยกับลูกค้าไว้อย่างดีว่าเราใช้ไม้เนื้อดี กันชื้น กันราได้เป็นระยะเวลาสิบๆ ปี แต่พอเอาจริงลูกค้าอยู่ไป 2 ปี ราก็เริ่มมาแล้วเพราะหลบไปใช้ไม้แบบลดคุณภาพ และเมื่อลูกค้าสังเกตได้ภาพลักษณ์ที่เคยดีของคุณในสายตาเขา ก็จะกลายเป็นติดลบ นอกจากเขาจะไม่แนะนำงานคุณต่อแล้ว เขาอาจจะนำเรื่องนี้ไปบอกต่อจนเกิดเป็นชื่อเสียที่กระทบต่อตัวผู้รับเหมาได้
ไม่ควรเลื่อนงาน หรือปิดงานไม่ได้ตามกำหนด
หากเมื่อใดที่ผู้รับเหมาเลื่อนงาน แปลว่า ระบบจัดการ และการวางแผน [มีปัญหา] ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความประทับใจ และความไว้าวางใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก ทางที่ดีผู้รับเหมาควรวางแผนจัดการเวลาให้ดีตั้งแต่ต้น อย่าเอาความคิดการคาดคะเนของตัวเองเป็นหลักให้ถามลูกน้อง ถามช่างด้วยว่าสามารถทำงานได้ทันหรือไม่ งานไม่ overload จนเกินไปใช่ไหม เพราะหลายครั้งช่างบอกทำได้ๆ เพราะอยากรับงาน แต่เมื่อถึงเวลาจริงงานดัน overload จนทำไม่ทันตามที่ตกลงไว้ ฉะนั้นการวางแผนไม่ใช่แค่คุย แล้วบอกว่างานปูนสองอาทิตย์นะ โอเคจบ งานต่อไปงานสีอีกสองอาทิตย์ ไม่ใช่แบบนี้ครับ เราต้องมานั่งจับเข่าคุยกับช่างเลยว่าจะแบ่งการทำงานรายวันอย่างไรบ้างเพื่อให้ตรงตามแพลน เมื่อเราทำอย่างละเอียดช่าง และลูกน้องจะเห็นภาพว่างานที่พวกเขารับไปเขาสามาถทำได้จริงหรือเปล่า
ไม่ควรขาดการติดต่อกับลูกค้า
ไม่ว่าการทำงานจะดำเนินไปอย่างราบรื่น หรือไม่ราบรื่นสิ่งที่ห้ามทำแบบเด็ดขาดเลยคือ การขาดการติดต่อ เพราะลูกค้าลงทุนกับเราไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆนะครับ ดังนั้นเขาย่อมต้องการติดตามผลลัพธ์ ผลการดำเนินงานเป็นเรื่องปกติ หรือในบางครั้งเขาอาจจะมีปัญหา มีไอเดียที่อยากเสนยอขึ้นมาเพื่อให้บ้านของเขาออกมาได้ตรงใจมากขึ้น แต่ถ้าผู้รับเหมาไม่รับสาย ข้อความไม่ตอบลูกค้าย่อมไม่ประทับใจ และเป็นประสบการณ์ที่แย่ในการจ้างงาน ฉะนั้นทุกครั้งที่รับงานผู้รับเหมาต้องกำหนดเลยว่าใครคือผู้รับหน้าประสานงานโดยตรงกับลูกค้า หากลูกค้ามีปัญหาต้องการติดต่อเป็นหน้าที่ใครเพื่อให้เกิดการสับสนขึ้นมาระหว่างดำเนินงาน
เห็นไหมครับว่า 4 ข้อนี้เป็นเรื่องง่ายๆ พื้นฐานที่ผู้รับเหมาหลายเจ้าอาจทราบดีอยู่แล้ว แต่หากไม่ใส่ใจอย่างจริงจังก็ยังสามารถพลาด 4 หลุมพรางนี้ได้อยู่ดี อย่างที่ผมมักพูดอยู่เสมอในงานรับเหมา การแก้ไขอย่างทันที ไม่ให้ปัญหาลุกลามคือวิธีจัดการที่ดีที่สุด การมาแก้ไขภายหลังนอกจากจะเสียทั้งเวลา ทรัพยากร และยังชื่อเสียงของเราไปอีกด้วย
#VSMODULAR#บิ้วอินเปลี่ยนโลก#หลักสูตรออกแบบภายในยุคใหม่#ต๋องดีไซน์เนอร์บ้านบ้าน